กุนซือ บาร์เซโลน่า "เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้" ก้มหน้ายอมรับในช่วงครึ่งแรกทีมของตนเล่นกันได้แย่สุด ๆ จนทำให้พ่าย เบติส 3-4 พร้อมชี้ว่า การลุ้นแชมป์ในซีซั่นนี้มันสูสีกันสุด ๆ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้
เทรนเนอร์ บาร์เซโลน่า ตำหนิลูกทีมที่โชว์ฟอร์มได้แย่ในช่วงครึ่งแรกจนทำให้พวกเขาแพ้ เรอัล เบติส 3-4 คารัง คัมป์ นู ในเกม ลา ลีกา สเปน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ทีมเยือนทำได้ถึง 2 ประตูในช่วงครึ่งแรกจาก จูเนียร์ ฟีร์โป ในนาทีที่ 20 กับ ฆัวกิน ซานเชซ ในนาทีที่ 34 โดยกว่าเจ้าถิ่นจะตีไข่แตกได้ก็ต้องรอจนถึงนาทีที่ 68 จากลูกจุดโทษของ ลิโอเนล เมสซี่
ซึ่งในอีก 3 นาทีหลังจากนั้น เบติส ก็มาหนีห่างเป็น 3-1 จาก โจวานี่ โล เซลโซ่
แม้ว่า อาร์ตูโร่ วิดัล จะทำประตูตีตื้นให้ บาร์เซโลน่า เป็น 2-3 ในนาทีที่ 79 แต่ในอีก 2 นาทีหลังจากนั้น อิวาน ราคิติช มิดฟิลด์ของเจ้าถิ่นก็มาโดนใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม
ซึ่ง เบติส ก็มาได้ลูกที่ 4 อย่างรวดเร็วจาก เซร์คิโอ กานาเลส ในนาทีที่ 83 ถึงแม้ "อาซูลกราน่า" จะได้ลูกที่สามจาก เมสซี่ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่ก็สายไปแล้ว
บัลเบร์เด้ เผยว่า "ในครึ่งแรกเราเล่นกันได้ไม่ดี และเราก็หาทางกลับมาสู่เกมไม่ได้เลย ก่อนหน้านี้เรากำลังทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง แต่วันนี้เราเริ่มเกมกันได้แย่มาก โดยรวมแล้วมันมีบางอย่างหายไป
ในครึ่งหลังเรายกระดับการเล่นขึ้นมา และสามารถสร้างโอกาสทำประตูได้มากกว่าในครึ่งแรก"
"จริงอยู่ว่ามันยังรู้สึกดีที่ได้เข้าสู่ช่วงโปรแกรมเกมทีมชาติในฐานะจ่าฝูง แต่เราคาดหวังว่าตัวเองจะทำได้ดีกว่าเดิมอยู่เสมอ การแข่ง ลา ลีกา ในฤดูกาลนี้มันสูสีกันมาก ๆ และวันนี้มันก็เป็นการเตือนความจำว่า
การที่จะชนะสักนัดมันทำได้ยากแค่ไหน"
ทั้งนี้นี่นับเป็นการแพ้ใน ลีกคารัง คัมป์ นู ครั้งแรกของ บาร์เซโลน่า ในรอบมากกว่า 2 ปี พร้อมกับทำให้พวกเขามี 24 คะแนนเท่าเดิม จากการลงเล่น 12 นัด โดยที่ทีมของ บัลเบร์เด้ มีแต้มมากกว่า เซบีย่า,
แอตเลติโก มาดริด และ เดปอร์ติโบ อลาเบส เพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้น