Skip to content

รูเบน อาโมริม (Ruben Amorim) หัวหน้าผู้ฝึกสอนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวว่าเขาจะพูดคุยกับ อเลฮานโดร การ์นาโช (Alejandro Garnacho) หลังจากที่ปีกชาวอาร์เจนตินาเดินตรงไปยังห้องแต่งตัวทันทีเมื่อถูกเปลี่ยนตัวในครึ่งแรกของเกมที่ชนะ อิปสวิช 3-2 แทงบอล sbobet มือถือ อาโมริม (Amorim) ตัดสินใจเปลี่ยน การ์นาโช (Garnacho) นักเตะทีมชาติ อาร์เจนตินา ด้วยการส่ง นูแซร์ มาซราวี (Noussair Mazraoui) กองหลังลงสนามแทนสองนาทีก่อนจบครึ่งแรก หลังจากที่ แพทริค ดอร์กู (Patrick Dorgu) ได้รับใบแดง ขณะนั้นฝนตกหนักที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด และ การ์นาโช (Garnacho) ดูเหมือนจะบอกว่าต้องการถอดเสื้อออก จึงเดินลงไปตามเส้นข้างสนามไปยังห้องแต่งตัวแทนที่จะนั่งบนม้านั่งสำรอง ยังไม่มีใครทราบว่าเขาอยู่ชมเกมในครึ่งหลังหรือไม่ "ผมจะพูดคุยกับ การ์นาโช (Garnacho) เกี่ยวกับเรื่องนี้" อาโมริม (Amorim) กล่าว

 

ในเดือนธันวาคม นักเตะปีกวัย 20 ปีรายนี้เคยถูกตัดชื่อออกจากทีมในเกมดาร์บี้แมตช์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนาม เอติฮัด สเตเดียม มาแล้ว 

 

พร้อมกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด (Marcus Rashford) ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลงานที่ไม่ดีในการฝึกซ้อมและทัศนคติของเขา แตกต่างจาก แรชฟอร์ด (Rashford) ที่ไม่ได้ลงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกเลยและปัจจุบันถูกปล่อยยืมตัวไปยัง แอสตัน วิลล่า การ์นาโช (Garnacho) กลับมาปฏิบัติหน้าที่ในทีมชุดใหญ่ทันที "คุณกำลังเชื่อมโยงกับเรื่องของ แรชฟอร์ด (Rashford)" อาโมริม (Amorim) กล่าวประเมินสถานการณ์ในวันพุธ "มันหนาวและเปียก" การตัดสินใจของ อาโมริม (Amorim) เป็นการปรับเปลี่ยนทางเทคนิคอันเป็นผลมาจากการได้รับใบแดง แทงบอล sbobet มือถือ ทำให้ทีมสามารถรักษารูปแบบการเล่นเดิมได้เกือบทั้งหมดโดยใช้ 5 คนในแนวรับ "ความคิดคือเราจะเล่นระบบ 5-3-1 นั่นเป็นความเสี่ยงเพราะเขา [การ์นาโช (Garnacho)] คือคนที่สามารถเล่นตัวต่อตัวด้วยความเร็วได้" อาโมริม (Amorim) กล่าว "เราต้องเลือกใครสักคนที่จะออกจากสนาม มันเป็นการตัดสินใจของผม"

 

ความท้าทายในการจัดการกับปฏิกิริยาของนักเตะ กรณี อเลฮานโดร การ์นาโช (Alejandro Garnacho)

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกมระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อิปสวิช เมื่อ อเลฮานโดร การ์นาโช (Alejandro Garnacho) เดินตรงไปยังห้องแต่งตัวหลังถูกเปลี่ยนตัวได้สร้างคำถามมากมายเกี่ยวกับวินัยและการจัดการภายในทีม การตัดสินใจของ รูเบน อาโมริม (Ruben Amorim) ในการเปลี่ยนตัว การ์นาโช (Garnacho) ออกจากสนามเป็นการตอบสนองทางยุทธวิธีต่อสถานการณ์ที่ แพทริค ดอร์กู (Patrick Dorgu) ของฝั่งตรงข้ามได้รับใบแดง ซึ่งเป็นเรื่องปกติในวงการฟุตบอลที่ผู้จัดการทีมต้องปรับเปลี่ยนแผนการเล่นเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ในกรณีนี้ อาโมริม (Amorim) ต้องการปรับรูปแบบการเล่นเป็น 5-3-1 ซึ่งจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่น การเลือก การ์นาโช (Garnacho) เป็นผู้เล่นที่ต้องออกจากสนามแสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจที่ยากลำบาก เนื่องจากเขาเป็นผู้เล่นที่มีความเร็วและความสามารถในการเล่นหนึ่งต่อหนึ่ง แต่ด้วยความจำเป็นในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับแนวรับ อาโมริม (Amorim) จึงต้องเสียสละศักยภาพในการโจมตีบางส่วน ปฏิกิริยาของ การ์นาโช (Garnacho) ที่เดินตรงไปยังห้องแต่งตัวแทนที่จะนั่งบนม้านั่งสำรองนั้นอาจถูกตีความได้หลายอย่าง แม้ว่าสภาพอากาศที่เลวร้ายจะเป็นเหตุผลที่เป็นไปได้ตามที่ อาโมริม (Amorim) กล่าว แต่มันก็เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้จัดการทีมต้องจัดการกับสถานการณ์เช่นนี้อย่างระมัดระวังเพื่อรักษาความสามัคคีและวินัยภายในทีมแน่นอนว่ามีการเปรียบเทียบกับกรณี มาร์คัส แรชฟอร์ด (Marcus Rashford) ไม่ใช่ครั้งแรกที่ การ์นาโช (Garnacho) เผชิญกับคำถามเกี่ยวกับวินัยและทัศนคติ ในเดือนธันวาคม เขาถูกตัดชื่อออกจากทีมในเกมสำคัญกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด (Marcus Rashford) เนื่องจากผลงานที่ไม่ดีในการฝึกซ้อมและปัญหาด้านทัศนคติ เหตุการณ์นั้นเป็นสัญญาณเตือนสำหรับนักเตะหนุ่มเกี่ยวกับความคาดหวังที่สูงในระดับสโมสรชั้นนำเช่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างผลลัพธ์ของสถานการณ์ของทั้งสองคน ในขณะที่ แรชฟอร์ด (Rashford) ไม่ได้กลับมามีบทบาทในทีมและปัจจุบันถูกปล่อยยืมตัวไปยัง แอสตัน วิลล่า การ์นาโช (Garnacho) กลับได้รับโอกาสให้กลับมาในทีมชุดใหญ่ทันที ซึ่งบ่งชี้ว่าเขาอาจได้ตอบสนองต่อการตักเตือนในเชิงบวกมากกว่าหรือสโมสรอาจมองว่าเขามีคุณค่าต่อทีมมากกว่า การจัดการกับนักเตะดาวรุ่งที่มีพรสวรรค์อย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช (Alejandro Garnacho) เป็นความท้าทายที่ซับซ้อนสำหรับผู้จัดการทีมอย่าง รูเบน อาโมริม (Ruben Amorim) ในด้านหนึ่ง การ์นาโช (Garnacho) มีศักยภาพมหาศาลและความสามารถในการสร้างความแตกต่างให้กับทีม ในอีกด้านหนึ่ง เขายังเป็นนักเตะหนุ่มที่กำลังเรียนรู้และพัฒนาทั้งในด้านเทคนิคและด้านความเป็นมืออาชีพ การพัฒนานักเตะหนุ่มไม่ได้เกี่ยวข้องเพียงแค่การปรับปรุงทักษะในสนามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างทัศนคติที่เหมาะสม การเคารพต่อการตัดสินใจของผู้จัดการทีม และการเป็นส่วนหนึ่งของทีมไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ความท้าทายสำหรับ อาโมริม (Amorim) คือการหาสมดุลระหว่างการให้อิสระกับพรสวรรค์ของ การ์นาโช (Garnacho) และการสร้างขอบเขตที่ชัดเจนเกี่ยวกับพฤติกรรมที่คาดหวัง สำหรับเหตุการณ์นี้อาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มีผลกระทบที่สำคัญต่อพลวัตของทีมและวัฒนธรรมที่ อาโมริม (Amorim) พยายามสร้างที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด การจัดการกับสถานการณ์นี้จะส่งสัญญาณไปยังนักเตะคนอื่น ๆ เกี่ยวกับมาตรฐานที่คาดหวังและผลที่ตามมาของการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานเหล่านั้น สำหรับ การ์นาโช (Garnacho) นี่เป็นโอกาสสำคัญในการเรียนรู้และเติบโต วิธีที่เขาตอบสนองต่อการพูดคุยกับ อาโมริม (Amorim) และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเขาในอนาคตจะมีผลอย่างมากต่อเส้นทางการเล่นฟุตบอลของเขาที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดาวรุ่งที่มีพรสวรรค์มากมายไม่สามารถบรรลุศักยภาพสูงสุดของพวกเขาได้เพราะไม่สามารถจัดการกับด้านอารมณ์และจิตใจของเกมได้ ภายใต้การดูแลของ อาโมริม (Amorim) การ์นาโช (Garnacho) มีโอกาสที่จะพัฒนาเป็นผู้เล่นระดับโลกที่มีทั้งพรสวรรค์และทัศนคติที่เหมาะสม การพูดคุยที่กำลังจะเกิดขึ้นระหว่างทั้งสองคนอาจเป็นจุดสำคัญในการเดินทางนี้

รูเบน อาโมริม (Ruben Amorim) ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) กล่าวว่าทีมของเขาอาจเป็น "ทีมที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ 147 ปีของสโมสร" หลังจากพ่ายแพ้ต่อไบรท์ตัน (Brighton) 3-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คำพูดนี้ไม่ได้เป็นเพียงการวิจารณ์ตัวเอง แต่ยังสะท้อนถึงความตั้งใจที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในทีม

คำพูดสะเทือนใจจากรูเบน อาโมริม

หลังการแข่งขันที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ซึ่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพ่ายแพ้เป็นครั้งที่ 4 ใน 5 นัดหลังสุด อาโมริมกล่าวกับสื่อมวลชนว่า:
"ใน 10 เกมที่ผ่านมาในพรีเมียร์ลีก เราชนะเพียง 2 เกม ลองจินตนาการว่ามันเป็นอย่างไรสำหรับแฟน ๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และสำหรับตัวผมเอง เราอาจเป็นทีมที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมพูดแบบนี้เพราะเราต้องยอมรับมันและเปลี่ยนแปลงมัน"

การวิจารณ์ทีมของตัวเองอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้ กลายเป็นประเด็นใหญ่ในวงการฟุตบอล บางคนมองว่าอาโมริมกำลังใช้โอกาสนี้เพื่อกระตุ้นทีม ในขณะที่อีกด้านก็มองว่าคำพูดนี้อาจบั่นทอนจิตใจนักเตะ

ผลกระทบต่อทีมและนักเตะ

ดร.มาร์ติน เทิร์นเนอร์ (Dr. Martin Turner) นักจิตวิทยาการกีฬาจากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์เมโทรโพลิแทน กล่าวว่าคำพูดของอาโมริมอาจมีผลกระทบอย่างมากต่อทีม

"การพูดตรง ๆ แบบนี้อาจเป็นช่วงเวลาที่ทรงพลังสำหรับทีม มันไม่ใช่แค่การวิจารณ์ แต่เป็นการส่งข้อความถึงนักเตะว่า 'นี่คือความจริง และเราต้องเปลี่ยนแปลง'" ดร.เทิร์นเนอร์กล่าว

นักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องการความท้าทายและคำแนะนำที่ชัดเจนเพื่อพัฒนาผลงาน คำพูดของอาโมริมจึงอาจเป็นแรงผลักดันให้พวกเขามุ่งมั่นมากขึ้นในเกมต่อไป

ทิศทางในอนาคตของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ปัจจุบันแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่ในอันดับที่ 13 ของตารางพรีเมียร์ลีก โดยเก็บได้เพียง 11 คะแนนจาก 11 นัดตั้งแต่อาโมริมเข้ามาคุมทีมแทนเอริก เทน ฮาก (Erik ten Hag) ในเดือนพฤศจิกายน

แม้สถานการณ์จะดูไม่ดี แต่คำพูดที่ท้าทายของอาโมริมอาจช่วยสร้างแรงจูงใจให้ทีมกลับมาเข้าฟอร์มได้ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ทั้งผู้จัดการทีมและนักเตะต้องรับมือกับแรงกดดันมหาศาลเพื่อฟื้นฟูศรัทธาของแฟนบอลและสร้างความสำเร็จให้ทีมอีกครั้ง

บทสรุป

คำพูดของรูเบน อาโมริมในครั้งนี้ไม่ใช่แค่การยอมรับความล้มเหลว แต่ยังเป็นการสื่อสารที่ชัดเจนถึงนักเตะและแฟนบอลว่าเขาพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงทีมให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง แม้ว่าผลลัพธ์ในระยะสั้นอาจไม่เป็นไปตามคาด แต่ความมุ่งมั่นในระยะยาวจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกลับมายืนอยู่ในจุดสูงสุดของวงการฟุตบอลอีกครั้ง

การใช้งาน sbobet mobile ทำให้คุณสามารถเดิมพันกีฬาและคาสิโนได้ทุกที่ทุกเวลาอย่างสะดวกสบาย สมัครสมาชิกวันนี้เพื่อรับสิทธิพิเศษมากมายเมื่อใช้งานผ่าน sbobet mobile