Skip to content

การแข่งขัน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (UEFA Champions League) รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดระหว่าง เรอัล มาดริด (Real Madrid) กับ แอตเลติโก มาดริด (Atletico Madrid) กลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า - UEFA) ประกาศสอบสวนพฤติกรรมไม่เหมาะสมของผู้เล่น เรอัล มาดริด (Real Madrid) 4 คน ได้แก่ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ (Antonio Rudiger), คีเลียน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappe), วินิซิอุส จูเนียร์ (Vinicius Jr) และ ดานี่ เซบายอส (Dani Ceballos) หลังจากพวกเขามีท่าทางยั่วยุแฟนบอลเจ้าถิ่นหลังจบการแข่งขัน

ยูฟ่าสั่งสอบสวนหลังจบเกมดวลจุดโทษ

ในการแข่งขันที่ สนามว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน (Wanda Metropolitano Stadium) ทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ (Carlo Ancelotti) เอาชนะไปได้ด้วยการดวลจุดโทษ และผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ภาพจากกล้องโทรทัศน์เผยให้เห็นว่าผู้เล่นของ เรอัล มาดริด (Real Madrid) บางรายแสดงพฤติกรรมที่อาจไม่เหมาะสมต่อแฟนบอลของ แอตเลติโก มาดริด (Atletico Madrid)

อันโตนิโอ รูดิเกอร์ (Antonio Rudiger) ถูกจับภาพว่าทำท่าปาดคอ คล้ายกับการส่งสัญญาณเชิงข่มขู่ ในขณะที่ คีเลียน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappe) ทำท่าจับเป้ากางเกง ซึ่งเป็นท่าทางที่อาจสื่อถึงการยั่วยุ ส่วน วินิซิอุส จูเนียร์ (Vinicius Jr) และ ดานี่ เซบายอส (Dani Ceballos) ก็ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการกระทำดังกล่าว

แอตเลติโก มาดริด (Atletico Madrid) ไม่ได้นิ่งเฉยต่อเหตุการณ์นี้ และได้แจ้งเรื่องไปยัง ยูฟ่า (UEFA) เพื่อขอให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียด

ผลกระทบต่อเกมรอบก่อนรองชนะเลิศกับอาร์เซนอล

จากการสอบสวนของ ยูฟ่า (UEFA) มีความเป็นไปได้ว่านักเตะที่ถูกกล่าวหาอาจถูกลงโทษแบน ส่งผลให้พวกเขาอาจพลาดลงเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศที่กำลังจะถึง ซึ่ง เรอัล มาดริด (Real Madrid) มีโปรแกรมพบกับ อาร์เซนอล (Arsenal) โดยเลกแรกจะจัดขึ้นที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม (Emirates Stadium) ในวันที่ 8 เมษายน และเลกที่สองจะเตะที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว (Santiago Bernabeu) ในสัปดาห์ถัดไป

แม้ว่าการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น แต่หลายฝ่ายมองว่า หากผู้เล่นที่เกี่ยวข้องถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง เรอัล มาดริด (Real Madrid) อาจได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากพวกเขาต้องพึ่งพาผู้เล่นระดับสตาร์เหล่านี้ในการลุ้นแชมป์

ยูฟ่าออกแถลงการณ์เกี่ยวกับกรณีนี้

ยูฟ่า (UEFA) ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันการสอบสวนโดยระบุว่า:

"ผู้ตรวจสอบด้านจริยธรรมและวินัยได้รับมอบหมายให้ดำเนินการตรวจสอบข้อกล่าวหาเกี่ยวกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมของผู้เล่นทั้งสี่รายจากสโมสรเรอัล มาดริด (Real Madrid)"

ยูฟ่ายังกล่าวเพิ่มเติมว่า จะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอบสวนในอนาคต

จากกรณีนี้ แฟนบอลต่างเฝ้ารอผลการพิจารณาของ ยูฟ่า (UEFA) ว่าจะมีบทลงโทษออกมาอย่างไร และจะส่งผลกระทบต่อเส้นทางของ เรอัล มาดริด (Real Madrid) ใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (UEFA Champions League) หรือไม่

หากคุณกำลังมองหาเว็บเดิมพันที่ปลอดภัยและใช้งานง่าย play beer789 คือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ พบกับประสบการณ์การเดิมพันที่ลื่นไหล ไม่มีสะดุดที่ play beer789 เว็บไซต์ชั้นนำของไทย

 

เรอัล มาดริด (Real Madrid) ทีมแชมป์ยุโรป 15 สมัย กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก หลังแพ้ถึงสามจากห้าเกมล่าสุด ทำให้พวกเขาตกไปอยู่ในอันดับที่ 24 ของตารางการแข่งขันรูปแบบใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันสำหรับทีมระดับแชมป์

สถานการณ์ล่าสุดในแชมเปียนส์ลีก

ในฤดูกาลนี้ ยูฟ่าได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการแข่งขัน โดยทีมที่อยู่ในอันดับ 1-8 ของตารางจะได้ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยอัตโนมัติ ส่วนทีมอันดับ 9-24 ต้องลงเล่นรอบเพลย์ออฟแบบเหย้า-เยือนเพื่อแย่งชิงโอกาสเข้ารอบต่อไป

สำหรับเรอัล มาดริด ความพ่ายแพ้ล่าสุดต่อ ลิเวอร์พูล (Liverpool) ด้วยสกอร์ 2-0 ทำให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อเข้าสู่รอบถัดไป นับเป็นการเสียฟอร์มของทีมที่เคยถูกยกย่องว่าเป็นเจ้าแห่งการแข่งขันในทัวร์นาเมนต์นี้

ผลงานของซูเปอร์สตาร์ยังไม่เข้าตา

หนึ่งในปัญหาสำคัญที่เรอัล มาดริดกำลังเผชิญคือการปรับตัวของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappe) ซึ่งยังไม่สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ในทีม หลังจากที่เขาย้ายมาจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (Paris Saint-Germain)

การพลาดจุดโทษในเกมล่าสุดกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้เขาถูกวิจารณ์อย่างหนัก โดยอดีตนักเตะอย่าง สตีฟ แม็คมานามาน (Steve McManaman) กล่าวว่า “เอ็มบัปเป้ไม่ได้แสดงผลงานที่ดีที่สุดในคืนนี้ มาดริดต้องการนักเตะใหญ่ แต่พวกเขาไม่สามารถทำผลงานได้ในช่วงเวลาสำคัญ”

นอกจากนี้ยังมีการตั้งคำถามเกี่ยวกับบทบาทของซุปเปอร์สตาร์อย่างเอ็มบัปเป้ โดยเฉพาะการเล่นร่วมกับ วินิซิอุส จูเนียร์ (Vinicius Jr) ที่มีสไตล์การเล่นคล้ายกัน แต่แม้ในเกมที่วินิซิอุสไม่ได้ลงสนาม เอ็มบัปเป้ก็ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้

เบลลิงแฮมให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีม

แม้จะมีเสียงวิจารณ์อย่างหนัก แต่ จูด เบลลิงแฮม (Jude Bellingham) มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ยังคงให้กำลังใจเอ็มบัปเป้ โดยกล่าวว่า “คีลิยันเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม แม้แรงกดดันจะมหาศาล แต่ผมมั่นใจว่าเขาจะสร้างช่วงเวลาสำคัญให้กับทีมได้อีกมากมาย”

นอกจากนี้ เบลลิงแฮมยังยอมรับว่า ลิเวอร์พูล มีความมุ่งมั่นมากกว่าในเกมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้พวกเขาพ่ายแพ้

บทสรุป

เรอัล มาดริดต้องเร่งฟื้นฟอร์มเพื่อรักษาชื่อเสียงในฐานะแชมป์แชมเปียนส์ลีก การปรับตัวของเอ็มบัปเป้และการฟื้นฟูความสามัคคีในทีมจะเป็นปัจจัยสำคัญในการกลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะ สำหรับแฟนบอลทั่วโลก ยังคงต้องติดตามว่าทีมยักษ์ใหญ่จากสเปนจะก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปได้อย่างไร

การเดิมพันผ่าน sbobet mobile เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสะดวกสบายในการเล่นพนันออนไลน์ สมัครสมาชิกง่าย ๆ บน sbobet mobile เพื่อรับโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษมากมาย

ผลบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในรอบแบ่งกลุ่ม, กลุ่มG สำหรับคืนวันที่ 23 ตุลาคม 2561 โดยทีม เรอัล มาดริด เปิดสนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เฉือนชนะ วิคตอเรีย พัลเซ่น อย่างหวุดหวิดไปด้วยสกอร์ 2 ประตูต่อ 1

ผลบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบแบ่งกลุ่ม, กลุ่มG) :
วันที่แข่งขัน : วันที่ 23 ตุลาคม 2561
ทีม : เรอัล มาดริด 2-1 วิคตอเรีย พัลเซ่น
รายชื่อผู้ทำประตู : 1-0 เบนเซม่า นาทีที่ 11 / 2-0 มาร์เซโล่ นาทีที่ 56 / 2-1 ฮโรซอฟสกี้ นาทีที่ 79
เวลาการแข่งขัน : 2.00 น.
สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว

ภาพรวมของเกมดวลแข้งนี้ ทางฝั่ง “ราชันชุดขาว” ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ " ลูคัส บาซเกซ " ได้ลงเป็นแบ็คขวาขึ้นมาเปิดให้ คาริม เบนเซม่า โหม่งเข้าไปตั้งแต่นาทีที่ 11 จากนั้น 
ราชันชุดขาว ทำประตูที่ 2 ของเกมในช่วงครึ่งหลัง จากลูกยิงชิพข้ามหัวผู้รักษาประตูอย่างเหนือชั้นของ มาร์เซโล่ ในนาทีที่ 56

ช่วงท้ายเกม วิคตอเรีย พัลเซ่น ทำประตูจุดความหวังจากลูกยิงของ แพทริค ฮโรซอฟสกี้ ในนาทีที่ 79 แต่สุดท้ายก็ไล่ไม่ทัน เลยพ่ายแพ้ต่อแชมป์เก่าไปด้วยสกอร์ 1 ประตูต่อ 2 ส่งผลให้ เรอัล มาดริด 
คว้า 3 คะแนน ทำแต้มเท่ากับ โรม่า อยู่ที่ 6 คะแนน (แข่ง3 ชนะ2 แพ้1) ขณะที่ วิคตอเรีย พัลเซ่น รั้งบ๊วยของกลุ่มมีเพียง 1 คะแนน จากการลงสนาม 3 นัด (แพ้2 เสมอ1)

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม :
เรอัล มาดริด : เคย์เลอร์ นาบาส(GK), ลูคัส บาซเกซ, นาโช่ เฟอร์นานเดซ, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล่, คาเซมิโร่, โทนี่ โครส, ลูก้า โมดริช, อิสโก้, แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า
วิคตอเรีย พัลเซ่น : อเลส ฮรุสก้า(GK), ราดิม เรซนิค, ลูคัส เฮย์ด้า, โรมัน ฮุบนิค, ดาวิด ลิมเบอร์สกี้, โรมัน โปรชาซก้า, แพทริค ฮโรซอฟสกี้, อเลส เซอร์มัค, มิลาน เพเตอร์เซล่า, มิลาน ฮาเวล, มิชาล เคอร์เมนชิค